งานออกร้านแสดงเครื่องมือจิวเวลรี่ ที่จังหวัดจันทบุรี
งานออกร้านแสดงเครื่องมือจิวเวลรี่ ที่จังหวัดจันทบุรี
เทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติจันทบุรี 2564-2565 ไม่เพียงตอกย้ำภาพลักษณ์จังหวัดให้เป็น “เมืองอัญมณีระดับโลก” ได้สำเร็จ แต่ยังกระตุ้นยอดซื้อช่วงตรุษจีน สร้างยอดขาย 65 ล้านบาท พร้อมจับคู่ธุรกิจ คาดมูลค่ารวมกว่า 240 ล้านบาท
สถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย หรือ GIT ผนึกกำลังกับหน่วยงานจังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ( ทีเส็บ) และองค์กรภาครัฐและเอกชนอีกหลายองค์กร จัดงาน “เทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรีนานาชาติ 2021-2022” ภายใต้แนวคิด “จันทบุรี: เมืองแห่งอัญมณี”
ระหว่างวันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี เคพี ศูนย์จิวเวลรี่และตลาดอัญมณีบนถนนศรีจันทร์ มีผู้เข้าร่วมงานอย่างดีเยี่ยมถึง 11,480 ราย ทั้งผู้ซื้อ ประชาชนทั่วไป และผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เทศกาลนี้ไม่เพียงแต่สร้างยอดขายได้ทันที 64.83 ล้านบาท แต่ยังมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการบริการอีกด้วย

นายสุเหม็ด ประสงค์พงศ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ แต่อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยก็สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเห็นได้จากยอดขายส่งออกในปี 2564 ที่อัญมณีและเครื่องประดับมีส่วนสนับสนุน มากถึง 194 .เศรษฐกิจของประเทศมีมูลค่าถึง 7 พันล้านบาท ทำให้เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้รายใหญ่อันดับ 5 ของประเทศเมื่อพิจารณาจากรายได้ นับเป็นเทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติจันทบุรีครั้งที่ 3
ภายหลังห่างหายไปเกือบ 2 ปี เพื่อตอกย้ำสถานะของประเทศในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับโลก โดยเฉพาะจันทบุรี และสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ออัญมณีและเครื่องประดับไทย เทศกาลนี้ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการทั้งในจังหวัดจันทบุรีและจากทั่วภาคตะวันออกของประเทศไทยและทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาเพื่อรองรับผู้สนใจรักและผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่จัดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ตัวแทนที่มีชื่อเสียงจากหอการค้าต่างประเทศที่มีศักยภาพในประเทศไทยเชิญเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการผ่านรูปแบบไฮบริดทั้งในสถานที่และออนไลน์
ซึ่งรวมถึงผู้แทนจากหอการค้าไทยอิตาเลียน และอเลสซิโอ บอสชิ ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลก หอการค้าไทย-ศรีลังกา และ Hong Kong Ladies’ Group เป็นผลให้เหตุการณ์นี้สร้างมูลค่าการค้าทั้งหมด มูลค่าการซื้อจากผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 248.38 ล้านบาท โดยการจับคู่ธุรกิจนอกสถานที่ 165 ล้านบาท และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ 83.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205% เมื่อเทียบกับฉบับปี 2562 ที่มีมูลค่าการซื้อ 21.20 ล้านบาท
ตลอดทั้งงาน งานนี้สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวมากกว่า 200 ล้านบาท มูลค่าการค้าและจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจุดแข็งของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
งานออกร้านแสดงเครื่องมือจิวเวลรี่ ที่จังหวัดจันทบุรี
เทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติจันทบุรี 2564-2565 ไม่เพียงตอกย้ำภาพลักษณ์จังหวัดให้เป็น “เมืองอัญมณีระดับโลก” ได้สำเร็จ แต่ยังกระตุ้นยอดซื้อช่วงตรุษจีน สร้างยอดขาย 65 ล้านบาท พร้อมจับคู่ธุรกิจ คาดมูลค่ารวมกว่า 240 ล้านบาท
สถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย หรือ GIT ผนึกกำลังกับหน่วยงานจังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ( ทีเส็บ) และองค์กรภาครัฐและเอกชนอีกหลายองค์กร จัดงาน “เทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรีนานาชาติ 2021-2022” ภายใต้แนวคิด “จันทบุรี: เมืองแห่งอัญมณี”
ระหว่างวันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี เคพี ศูนย์จิวเวลรี่และตลาดอัญมณีบนถนนศรีจันทร์ มีผู้เข้าร่วมงานอย่างดีเยี่ยมถึง 11,480 ราย ทั้งผู้ซื้อ ประชาชนทั่วไป และผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เทศกาลนี้ไม่เพียงแต่สร้างยอดขายได้ทันที 64.83 ล้านบาท แต่ยังมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการบริการอีกด้วย
นายสุเหม็ด ประสงค์พงศ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ แต่อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยก็สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเห็นได้จากยอดขายส่งออกในปี 2564 ที่อัญมณีและเครื่องประดับมีส่วนสนับสนุน มากถึง 194 .เศรษฐกิจของประเทศมีมูลค่าถึง 7 พันล้านบาท ทำให้เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้รายใหญ่อันดับ 5 ของประเทศเมื่อพิจารณาจากรายได้ นับเป็นเทศกาลอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติจันทบุรีครั้งที่ 3
ภายหลังห่างหายไปเกือบ 2 ปี เพื่อตอกย้ำสถานะของประเทศในฐานะศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับโลก โดยเฉพาะจันทบุรี และสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ออัญมณีและเครื่องประดับไทย เทศกาลนี้ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการทั้งในจังหวัดจันทบุรีและจากทั่วภาคตะวันออกของประเทศไทยและทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาเพื่อรองรับผู้สนใจรักและผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่จัดขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ตัวแทนที่มีชื่อเสียงจากหอการค้าต่างประเทศที่มีศักยภาพในประเทศไทยเชิญเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการผ่านรูปแบบไฮบริดทั้งในสถานที่และออนไลน์
ซึ่งรวมถึงผู้แทนจากหอการค้าไทยอิตาเลียน และอเลสซิโอ บอสชิ ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลก หอการค้าไทย-ศรีลังกา และ Hong Kong Ladies’ Group เป็นผลให้เหตุการณ์นี้สร้างมูลค่าการค้าทั้งหมด มูลค่าการซื้อจากผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 248.38 ล้านบาท โดยการจับคู่ธุรกิจนอกสถานที่ 165 ล้านบาท และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ 83.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205% เมื่อเทียบกับฉบับปี 2562 ที่มีมูลค่าการซื้อ 21.20 ล้านบาท
ตลอดทั้งงาน งานนี้สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวมากกว่า 200 ล้านบาท มูลค่าการค้าและจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจุดแข็งของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก





